10 อัลบั้มวงดนตรีที่ผมชื่นชอบ
ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะมีรสนิยมในการฟังเพลงที่แตกต่างกันวันนี้ผมจะมานำเสนออัลบั้มเพลงที่ผมชื่นชอบและส่งผลต่อจิตใจของผม
10.in the court of the crimson king
ศิลปิน King crimeson
เป็นอัลบั้มที่ถูกปล่อยวางขายในปี 1969 ใครฟังเพลงแนวนี้คงจะเคยได้ยินชื่อมาแล้วบ้าง อีกหนึ่งวงร็อคโปรเกรซซีฟที่ทำเพลงได้ยอดเยี่ยม เป็นวงยุคแรกๆของ prog rock แนวดนตรีที่สื่อดนตรีทาในแน สามารถสื่อความมายไปในทางที่ต้องการของเนื้อเรื่องในเพลงได้ โดยเพลงของวงนี้มักมีเนื้อหาออกไปในทางด้านเนื้อหาดาร์ก หม่นหมอง ไปในทางลบ ตามแนวโปรเกรซซีฟ โดยในแต่ละเพลงจะมีเนื้อหาแตกต่างกันออกไป บางเพลงก็ใช้เชิงอุปมาอุปมัย
"The black queen chants funeral march
the cracked brass bell will ring
to summon back the fire witch
for the court of the crimson king"
จากเพลง the court of the crimson king
9.simon and garfunkel's greatest hits
ศิลปิน Simon and garfunkel
ถูกจำหน่ายในปี 1972 อีกหนึ่งวงดนตรีในยุค 60's ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในการขับร้องที่มาเป็นคู่ พวกเขาผลิตเพลงจนกระทั่งแยกกันในปี 1970 ที่ผ่านมา simon กับ garfunkel นั้นแต่งเพลงแนวๆผ่อนคลาย สบายหูมาก ผู้ฟังได้รับอารมณ์ผ่อนคลายจากเพลง ลักษณะของเพลงโดยทั่วไปมักจะมีเนื้อหาเบาๆ แต่ลึกซึ้ง น่าแปลกที่วงนี้สามารถสร้างเพลงที่ทีทั้งเนื้อหาและทำนองหม่นๆได้อย่างเพลง sound of silence และยังมีเพลง Bridge over troubled water เพลงที่ชื่นชอบของแฟนเพลงหลายๆคน ที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง
ถูกจำหน่ายในปี 1972 อีกหนึ่งวงดนตรีในยุค 60's ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในการขับร้องที่มาเป็นคู่ พวกเขาผลิตเพลงจนกระทั่งแยกกันในปี 1970 ที่ผ่านมา simon กับ garfunkel นั้นแต่งเพลงแนวๆผ่อนคลาย สบายหูมาก ผู้ฟังได้รับอารมณ์ผ่อนคลายจากเพลง ลักษณะของเพลงโดยทั่วไปมักจะมีเนื้อหาเบาๆ แต่ลึกซึ้ง น่าแปลกที่วงนี้สามารถสร้างเพลงที่ทีทั้งเนื้อหาและทำนองหม่นๆได้อย่างเพลง sound of silence และยังมีเพลง Bridge over troubled water เพลงที่ชื่นชอบของแฟนเพลงหลายๆคน ที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง
"God bless you, please, Mrs.Robinson
Heaven holds a place for those who pray hey, hey, hey"
จากเพลง Mrs.Robinson
8.Wish you were here
ศิลปิน pink floyd
ปล่อยตัวในปี 1975 อีกวงร็อคที่ใส่ความอาร์ต ความเป็นศิลปะลงไปในผลงาน โดยอัลบั้มชุดนี้ทำเพื่อจากลา Syd barrett สมาชิกเก่าของวง โดยมีเพลง Wish you were here ที่กล่าวถึงความพลัดพรากของสมาชิกกับการอำลาครั้งสุดท้าย และเพลง Shine on you crazy diamond ที่สื่อถึงตัว syd โดยถ้านำตัวอักษรตัวแรกของคำมาจะได้ตัว S Y D เมื่อรวมกันก็ได้คำว่า Syd ก็คือชื่อของเขานั่นเอง
เพลงบางเพลงของวงนี้จะไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบฟังเพลงที่มีความยาว ถ้าพูดกันทั่วไปคือเพลงยาวคือเพลงที่เล่น 6-8 นาที แต่วงนี้เป็นโปรเกรซซีฟร็อคที่ต้องการให้ผู้ฟังรับรู้ถึงอารมณ์รู้สึกเหมือนโดนดูดไปอยู่ในโลกของวง pink floyd จึงมักจะแต่งเพลงยาวมากๆๆๆ โดยเพลง Shine on you crazy diamond มีความยาวถึง 25 นาที!!!
"how i wish, how i wish you were here
we're just two lost souls
swimming in a fish bowl
year after year
running over the same old ground
and how we found
the same old fears
wish you were here"
จากเพลง wish you were here
เกร็ดความรู้ จากภาพปกอัลบั้มเป็นภาพที่ถูกถ่ายจริงๆ โดยใช้สตันท์แมนใส่ชุดกันไฟแล้วรีบถ่ายรูป
7.Horse with no name
ศิลปิน America
ปล่อยในปี 1971 อีกวงที่เป็นวงขวัญใจคนยุค 70's จากเกาะอังกฤษ โดยเพลงส่วนใหญ่ของวงนี้มีลักษณะเป็นอะคูสติกและโฟล์คร็อค เนื้อเพลงสื่อความหมายได้ลึกซึ้ง โดยส่วนตัวผมชอบเพลง sandman กับ A horse with no name มากๆ ที่เน้นความหมายของเนื้อเพลงและมีการใส่จังหวะและอะคูสติกกีตาร์ที่ลงตัว อัลบั้มตัวนี้ได้ติดอันดับหนึ่งของนิตยสาร billboard ในปี 1972 ในปีถัดมาวงนี้ก็ได้รางวัลจากแกรมมี่ในสาขาถานะศิลปินหน้าใหม่ ถือได้ว่านี่เป็นอัลบั้มแจ้งเกิดของวงนี้เลยทีเดียว
"I've been through the desert on a horse with no name
it felt good to be out of the rain
in the desert you an remember you name
'cause there ain't no one for to give you no pain"
จากเพลง A horse with no name
เกร็ดความรู้ วง America มีโปรดิวเซอร์คือ จอร์จ มาร์ติน โปรดิวเซอร์คนเดียวกันกับวง The beatles
6.Yesterday once more-Greatest hit
ศิลปิน The carpenters
อัลบั้มเปิดตัวในปี 1984 เป็นวงที่ดังมากๆยุค 70's แต่เป็นวงดนตรีที่ทำเพลงลักษณะแนว 60's ซึ่งในยุค 70's เริ่มลดความนิยมแล้ว แต่แปลกที่ดันดังทั่วบ้านทั่วเมือง เพราะในช่วง 70's นั้นเริ่มจะมีแนวเพลงอื่นๆเกิดขึ้นมากมาย มาแทนที่แนวเพลงของวง the carpenters แล้ว ถ้าไม่เจ๋งไม่เก่งจริงก็คงจะดังไม่ได้ the carpenters มีการแต่งและบรรเลงเพลงที่ไพเราะเสนาะหู เหมือนกับเพลงในยุค 50's-60's กอปรกับเนื้อหาที่วงแต่งนั้นมีความหมายลึกซึ้งและกินใจ มีทำนองเคลิบเคลิ้มผ่อนคลาย ทำให้วงนี้ติด top of the pops มาหลายครั้งมาก ในไทยที่ดังมากๆคือ yesterday once more เชื่อว่าใครหลายๆคนเคยฟังแน่นอนจากการที่พ่อแม่เปิดฟังหรือเคยฟังในวิทยุ
"All my best memories come back clearly to me
some can even make me cry, just like before
it's yesterday once more"
จากเพลง yesterday once more
5.Willy and the poor boys
ศิลปิน Creedence Clearwater Revival
เปิดตัวในปี 1969 วง creedence clearwater rivival หรือรู้จักกันในชื่อย่อ CCR เป็นวงที่ได้รับความนิยมมากในช่วง 60's เนื่องจากมีลักษณะการแต่งเพลงที่สะท้อนความเป็นอยู่ของชนชั้นล่าง-กลางในสังคมอเมริกันในยุคนั้น อีกทั้งยังมีเนื้อหาลึกซึ้ง มีทำนองเพลิดเพลิน โดย willy and the poor boys นี้จะออกไปในแนวร็อค เพลง fortunate son เป็นเพลงหนึ่งที่ฮิตมากของวงนี้โดยเนื้อเพลงสะท้อนถึงทหารเกณฑ์อเมริกันในสงครามเวียดนาม และมักถูกเปิดบ่อยๆในกองทัพอเมริกันในช่วงนั้น จึงเป็นเพลงที่ติดหูมาก
ปัจจุบันก็ถูกใช้บ่อยๆในภาพยนตร์สงคราม
ปัจจุบันก็ถูกใช้บ่อยๆในภาพยนตร์สงคราม
"Down on the corner out in the street
'willy and the poor boys' are playin'
bring a nickel, tap your feet"
จากเพลง down on the corner
4.Sheer heart attack
ศิลปิน Queen
เปิดตัวในปี 1974 รู้กันอยู่ว่าวง queen เป็นวงร็อคที่ผลิตเพลงร็อคอกมาได้หลายแนว พวกเขาสามารถผลิตดนตรีร็อคสายต่างๆได้อย่างหลากหลายและมีคุณภาพส่งผลให้เพลงในอัลบั้มนั้นไม่น่าเบื่อไม่จำเจ โดยในอัลบั้มตัวนี้สามารถรวบรวมได้ถึง 3 สไตล์ ได้แก่ ฮาร์ดร็อค โพรเกรซซีฟร็อค และ อาร์ตร็อค โดยตัวนี้จะออกไปแนวทางฮาร์ดร็อคหน่อยๆ บางทีก็เรียกว่าอัลบั้มตัวนี้เป็นแบบแกลมร็อค คือนักดนตรีมีการแต่งหน้าทำผมและแต่งตัวด้วยชุดแปลกประหลาด ถ้านึกไม่ออกลองนึกถึง เดวิด โบวี่ โดยอัลบั้มตัวนี้เหมือนกับเป็นการลองผิดลองถูกของวง queen ตามบทสัมภาษณ์เฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ ฟรอนท์แมนของวงนี้ ซึ่งได้รับเทคนิคใหม่ๆและคำวิจารณ์เพื่อให้พวกเขาสามารถผลิตสร้างสรรค์เพลงได้ดียิ่งขึ้น
"She keeps her moet et vhandon
in her pretty cabinet
'let them eat cake', she says
just like marrie antoinette"
จากเพลง killer queen
3.Fragile
ศิลปิน Yes
อัลบั้มถูกเปิดตัวในปี 1971 โดยวง Yes วงร็อคโปรเกรซซีฟสัญชาติอังกฤษ ในอัลบั้มตัวนี้ได้ใส่เพลงที่ดังที่สุดของวง Yes นั่นคือเพลง Roundabout ผมชอบเพลง Roundabout มากๆ มีการเล่นดนตรีที่หนักแน่นทุกเครื่องดนตรี โดยเฉพาะท่อนโซโล่คีย์บอร์ด และมีการเล่นเบสอย่างแน่นได้อารมณ์ ถึงเพลง Rounabout จะถูกตัดความเป็น prog rock ตามแนวทางหลักของวงไปบ้าง แต่เราก็ได้อารมณ์ที่หนักแน่นของดนตรีกลับคืนมาในเพลงนี้ที่มีความยาวถึง 8 นาที ซึ่งดูเหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่าทางอารมณ์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะถูกลดความเป็น prog rock ทุกเพลง Yes ยังใส่สุดยอดเพลง prog rock อีกเพลงไว้ในอัลบั้มตัวนี้ นั่นคือเพลง heart of sunrise เมื่อฟังเพลงนี้แล้วก็สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่านี่แหละเพลง prog rock ที่แท้จริง
"I'll be the roundabout
the words will make you out n' out
i spend the day your way
call it morning driving through the sound and
in and out the valley"
in and out the valley"
จากเพลง Roundabout
2.Time
ศิลปิน Electric Light Orchestra
อัลบั้มถูกเปิดตัวในปี 1981 รู้จักกันในชื่อ ELO ที่มีการนำเสนอเพลงในด้านที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงพวกเขานำดนตรีร็อคผสมกับแนวออเครสตามาผลิตเพลง ด้วยเนื้อหาเพลงที่มีความเป็นป๊อปร็อค ไม่น่าเชื่อที่สามารถนำเพลงสองแนวที่แตกต่างกันมารวมกันเกิดงานศิลป์ทางดนตรีที่มีคุณภาพได้มากขนาดนี้ สามรถเข้ากันได้อย่างลงตัว สมาชิกสำคัญของวง the beatles อย่างจอห์น เลนน่อนเคยกล่าวถึงวงนี้ว่าเป็น "sons of the beatles" ก็ไม่แปลกที่จะเป็นถึงลูก เพราะว่าวง the beatles นี้ก็เคยนำการนำเสนอแบบนี้มาผลิตเพลง เช่นเพลง a day in the life เป็นต้น ส่วนตัวผมคิดว่าอัลบั้มตัวนี้ได้สื่อตัวของมันตามชื่อวงตรงที่คำว่า Electric ที่แปลว่า ไฟฟ้า กับ Orchestra ที่แปลว่า วงออเรสตา โดยมีความเป็นเพลง ยุคสมัยใหม่ ไม่ค่อยเหมือนกับเพลงในอัลบั้มตัวก่อนๆที่เป็นแค่การรวมดนตรีออเครสต้ากับร็อค โดยเพลงในอัลบั้มตัวนี้ที่สื่อถึงข้อความนี้ได้คือเพลง your truely 2095 ที่เป็นการรวมกันของแนวดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แบบ 80's กับดนตรีออร์เครสต้า อีกทั้งเพลง twilight ยังถูกนำไปใช้ประกอบในการ์ตูนสั้น Daicon IV ของสตูดิโอไกแนกซ์ในปี 1983 อีกด้วย
"With your head held high and your scarlet lies
you gave down to me from the open skies"
จากเพลง twilight
1.Abbey road
ศิลปิน The beatles
อัลบั้มตัวสุดท้ายของวงป๊อป-ร็อคในตำนานอย่าง The beatles ที่ถูกเปิดตัวในปี 1969 สิ่งที่น่าตกใจคือการประกาศแยกวงของสมาชิก the beatles เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการวางขายอัลบั้มชุดนี้เสียอีก ส่งผลให้เป็นอัลบั้มที่ได้รับความสนใจจากมวลมหาประชาชนมากๆ เนื่องจากเป็นตัวงานสุดท้ายก่อนจากลา และยังมีคุณค่าทางการสะสม ปกอัลบั้มมีที่มาคือถูกถ่ายที่ถนน abbey road ซึ่งใกล้เคียงกับสตูดิโอแอปเปิ้ลที่พวกเขาผลิตเพลงกันนั่นเอง ปกนี้ยังผลักดันทฤษฎีพอลตายแล้วอีกด้วย เมื่อดูคุณภาพของเพลงจะเห็นได้ว่า เพลงของ the beatles ส่วนใหญ่มีความเป็นป๊อปเหมือนกับเพลงป๊อปในปัจจุบันมากและบางทีอาจดีกว่าเพลงป๊อปบางเพลงในปัจจุบันด้วยซ้ำ เนื่องจากเพลงป๊อปนั้นได้รับอิทธพลและจากวง the beatles มากนั่นเอง โดยเพลงของวงสี่เต่าทองนี้จะมีเนื้อเพลงที่เรียบง่ายฟังง่ายฟังเพลิน หลังจากการเปิดตัวของอัลบั้มชุดนี้ไป ก็ถูกวิจารณ์กันหลายๆด้านจากสื่อต่างๆทั้งด้านดีด้านลบ
"I don't want to leave her now
you know i believe and how"
จากเพลง something
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น